นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
1. บททั่วไป
บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ (“บริษัทฯ ”) ตระหนักถึงความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้รับความคุ้มครอง ตลอดจนการให้สิทธิที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงมี ตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงฉบับแก้ไขเพิ่มเติม กฎ ระเบียบ ประกาศ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ในปัจจุบันหรือที่จะบังคับใช้ในอนาคต (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เพื่อแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวิธีการและวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงมีตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ การปฏิบัติตามหลักการที่กำหนดในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
โปรดอ่านและทำความเข้าใจในรายละเอียดของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ตลอดจนวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคลลฉบับนี้ ทั้งนี้ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ อาจมีการแก้ไขให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ใหม่ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับแก้ไขผ่านช่องทางเว็บไซต์ของ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดังนี้ https://www.maleegroup.com/policy/privacy หรือ ในบางกรณี บริษัทอาจจำเป็นต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวัตถุประสงค์ใหม่
บทนิยาม
“บริษัทในเครือ” หมายถึง บริษัทที่มีความสัมพันธ์ในลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) บริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบธุรกิจ โดยมีโครงสร้างการถือหุ้นระหว่างกัน ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมเกินกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทนั้น
(2) บริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบธุรกิจด้วยการมีอำนาจควบคุมระหว่างกัน
(3) บริษัทที่มีผู้มีอำนาจควบคุมกิจการเป็นบุคคลเดียวกับผู้มีอำนาจควบคุมกิจการของผู้ประกอบธุรกิจ
(4) โดยมีรายชื่อตามที่ระบุในเว็บไซต์ของ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดังนี้ https://www.maleegroup.com/th/about-us/corporate-information/
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึง ผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ ผู้อนุบาลที่มีอำนาจกระทำการแทนคนไร้ความสามารถ หรือผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม
“การประมวลผลข้อมูล” หมายถึง การกระทำการใด ๆ ต่อข้อมูลส่วนบุคคล หรือชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระเบียบ การจัดโครงสร้าง การจัดเก็บ การดัดแปลง หรือการเปลี่ยนแปลง การกู้คืน การใช้ การเปิดเผย โดยการส่ง การแพร่กระจาย หรือทำให้มีอยู่ การจัดวางให้ถูกตำแหน่ง หรือการรวม การจำกัด การลบ หรือการทำลาย
2. ประเภทของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ทำการประมวลผลข้อมูล
2.1 ลูกค้า หมายถึง บุคคลที่ซื้อผลิตภัณฑ์และ/หรือใช้บริการจากบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน อาทิ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้เข้าร่วมการประมูล ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน (หากมี) ผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลหรือขอรับบริการจากบริษัทฯ และผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทฯ เป็นต้น และให้หมายความรวมถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นตัวแทน หรือเป็นบุคลากรของลูกค้าหรืออาจจะเป็นลูกค้าของบริษัทฯ เช่น ผู้บริหาร กรรมการ ผู้ถือหุ้น พนักงาน ตัวแทน หรือบุคลากรของลูกค้า บุคคลผู้ค้ำประกันของลูกค้า รวมถึงบุคคลธรรมดาที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฎอยู่ในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง
2.2 คู่ค้า หมายถึง บุคคลภายนอกใด ๆ ที่จัดส่งวัตถุดิบ สินค้า หรือบริการให้แก่บริษัทฯ ซึ่งหมายรวมถึงผู้ขาย ผู้รับเหมา ผู้รับเหมาช่วง ที่ปรึกษา ตลอดจน คู่สัญญาใด ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการประกอบกิจการของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงหุ้นส่วนทางธุรกิจ บริษัทร่วม และกิจการร่วมค้า และให้หมายความรวมถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นตัวแทน หรือเป็นบุคลากรของคู่ค้าหรืออาจจะเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ เช่น ผู้บริหาร กรรมการ ผู้ถือหุ้น พนักงาน ตัวแทน หรือบุคลากรของคู่ค้า บุคคลผู้ค้ำประกันของคู่ค้า รวมถึงบุคคลธรรมดาที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฎอยู่ในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง
2.3 บุคลากรของบริษัทฯ หมายถึง บุคคลซึ่งทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ให้แก่บริษัทฯ และได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง สวัสดิการ หรือค่าตอบแทนอื่นไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไรจากบริษัทฯ เช่น กรรมการ ผู้บริหาร ผู้จัดการ พนักงาน บุคลากร ผู้ฝึกงาน หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน และให้หมายความรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของบริษัทฯ และผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคล ปรากฏในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เช่น บุคคลในครอบครัว บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ผู้รับผลประโยชน์ และผู้ค้ำประกันการทำงาน เป็นต้น
2.4 ผู้สมัครงาน หมายถึง บุคคลที่อาจได้รับคัดเลือกเป็นบุคลากรของบริษัทฯ และให้หมายความรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน และผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงาน เช่น บุคคลในครอบครัว บุคคลอ้างอิง และบุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น
2.5 ผู้ถือหุ้น หมายถึง บุคคล บริษัท หรือสถาบันที่เป็นเจ้าของหุ้นในบริษัทฯ
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ นำมาดำเนินการประมวลผลข้อมูล
ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผลภายใต้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือโดยอ้อมจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ หรือจากบริษัทในเครือ หรือคู่ค้าทางธุรกิจ โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ อาจนำมาทำการประมวลผลข้อมูล ได้แก่
3.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง รูปถ่าย ลายมือชื่อ สถานภาพสมรส สถานภาพทางทหาร ข้อมูลบุคคลในครอบครัว ได้แก่ บิดา มารดา คู่สมรส และบุตร เป็นต้น
3.2 ข้อมูลที่ระบุตัวตนที่ออกโดยราชการ เช่น เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง รวมถึงข้อมูลจากใบอนุญาตขับขี่ ทะเบียนบ้าน หนังสือรับรองนิติบุคคลที่ระบุรายชื่อกรรมการ หรือข้อมูลอื่นที่คล้ายคลึงกัน
3.3 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน สถานที่จัดส่งผลิตภัณฑ์ สถานที่จัดส่งใบแจ้งหนี้ หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) หรือ สื่อสังคม (social media) อื่นๆ ข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน และข้อมูลบุคคลอ้างอิง เป็นต้น
3.4 ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ เช่น ชื่อร้านค้า บริษัท หน่วยงาน หรือองค์กรที่สังกัด ชื่อตำแหน่ง ภาพถ่ายร้านค้าหรือบริษัท (แล้วแต่กรณี)
3.5 ข้อมูลเกี่ยวกับนิติกรรมสัญญา เช่น รหัสคู่ค้า รายละเอียดของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ รายละเอียดการส่งผลิตภัณฑ์ เลขที่บัญชีธนาคาร และจำนวนเงิน เป็นต้น
3.6 ข้อมูลด้านการเงิน เช่น จำนวนเงิน วงเงินสินเชื่อ เงื่อนไขการชำระเงิน เลขที่บัญชี ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี เช็คและต้นขั้วเช็ค ใบสาคัญการจ่าย ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับเงิน และใบหักบัญชีเงินฝาก เป็นต้น
3.7 ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมหรือนิติกรรมสัญญาต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน แบบฟอร์มลงทะเบียน สำเนาเอกสารสิทธิที่ดิน ใบขอเปิดหน้าบัญชีลูกค้า เอกสารรับรองบุคคลที่ไม่เกี่ยวโยงกัน หนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท สำเนาภพ.09/20 แผนที่ เอกสารหลักประกัน โฉนดที่ดิน หนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร (Bank Guarantee) หนังสือค้ำประกันโดยบุคคล สัญญาซื้อขายหรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม ใบส่งสินค้า สำเนาใบอนุญาตให้เป็นทนายความ และสำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือธุรกิจต่าง ๆ สำเนาใบสาคัญการเกณฑ์ทหาร สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาสูติบัตร แบบแจ้งขออนุมัติเงินเดือนพนักงานใหม่และบรรจุเป็นรายเดือน ใบรับรองแพทย์ ผลตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงาน แบบระบุนามผู้รับผลประโยชน์ แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน หนังสือยินยอมให้สอบประวัติบุคคล รายงานผลการตรวจสอบประวัติบุคคล สัญญาจ้างงาน หนังสือค้ำประกันการทำงานและเอกสารที่เกี่ยวข้อง หนังสือรับรองตำแหน่ง สำเนาบัตรข้าราชการ หนังสือรับรองเงินเดือน สำเนาทะเบียนการค้า หรือเอกสารจัดตั้งบริษัทที่มีชื่อผู้ค้ำประกันการทำงานเป็นเจ้าของหรือเป็นหุ้นส่วน ข้อตกลงการว่าจ้างกรรมการ หนังสือมอบอำนาจ เป็นต้น
3.8 ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา การฝึกอบรม ประวัติการศึกษาและการฝึกอบรม เช่น ชื่อสถาบัน คณะ สาขาวิชา หนังสือรับรองคุณวุฒิ ใบแสดงผลการศึกษา ความสามารถทางภาษา ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ ข้อมูลการอบรมและข้อมูลการทดสอบ และกิจกรรมที่เข้าร่วมระหว่างการศึกษา เป็นต้น
3.9 ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครงาน เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน ข้อมูลที่ปรากฏใน เรซูเม่ (Resume) หรือ CV (Curriculum Vitae) ตำแหน่งที่สมัคร เงินเดือนที่คาดหวัง ข้อมูลการสัมภาษณ์งาน หลักฐานหรือหนังสืออ้างอิงต่างๆ ตลอดจนข้อมูลที่ปรากฏในแบบประเมินผลการสัมภาษณ์ เช่น ผลการประเมิน ความรู้และประสบการณ์ คุณลักษณะส่วนบุคคล การทำงานกับผู้อื่น และศักยภาพ เป็นต้น
3.10 ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการประเมินผล เช่น รหัสบุคลากร ตำแหน่ง แผนก สังกัด สายการบังคับบัญชา การประเมินผลการปฏิบัติงาน พฤติกรรมในการทำงาน ผลงานและ/หรือรางวัลที่เคยได้รับ ข้อมูลการฝึกอบรม ข้อมูลการลงโทษทางวินัย ข้อมูลที่ปรากฏในหนังสือโอนย้ายบุคลากรข้ามบริษัท สัญญายืมตัวบุคลากร หนังสือเลิกจ้าง ใบลาออกจากการเป็นบุคลากร และเหตุผลที่ลาออก เป็นต้น
3.11 ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์และค่าตอบแทน เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง ผลตอบแทน โบนัส รายละเอียดเกี่ยวกับค่าบำเหน็จ สวัสดิการ เลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลของผู้ค้ำประกันการทำงาน ข้อมูลของผู้รับผลประโยชน์ ข้อมูลเกี่ยวกับการประกันสังคม ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ข้อมูลด้านภาษีอากร ข้อมูลการหักลดหย่อนภาษี ข้อมูลสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพ (รวมถึงสำหรับบุคคลในครอบครัว) และ/หรือผลประโยชน์อื่น ๆ เป็นต้น
3.12 ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น
3.13 ข้อมูลอื่นๆ เช่น บันทึกเสียงการสนทนา และบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) ข้อมูลอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลส่งถึงบริษัทฯ ในการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ เช่น ความคิดเห็น และตำแหน่งที่อยู่ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
4. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
4.1 ดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการเข้าทำนิติกรรมใด ๆ กับบริษัทฯ ตลอดจนการยืนยันตัวตนในการทำนิติกรรมใด ๆ การพิจารณาอนุมัติ และการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการให้คำแนะนำและการจัดการเกี่ยวกับบริการ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการใด ๆ ของบริษัทฯ ซึ่งหากไม่ได้ดำเนินการแล้วจะกระทบต่อการดำเนินการหรือการให้บริการของบริษัทฯ หรือจะไม่สามารถให้บริการได้อย่างเป็นธรรมและต่อเนื่อง
4.2 เพื่อบริหารจัดการเข้าทำนิติกรรมสัญญาและปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทฯ ตามสัญญา หรือข้อผูกพันใดๆ ก็ตามที่บริษัทฯ มีร่วมกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือองค์กรที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้แทนหรือตัวแทน เช่น การปฏิบัติตามสัญญา การชำระเงิน การรับหรือส่งข้อมูล และเอกสารติดต่อระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทฯ และการปฏิบัติตามกระบวนการภายในของบริษัทฯ ตลอดจนการตรวจสอบ การยืนยัน และการยกเลิกนิติกรรมสัญญา การโอนสิทธิ หน้าที่ และผลประโยชน์ใดๆ ตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทฯ การรับประกันผลิตภัณฑ์ รวมถึงการให้บริการอื่นๆ ตามที่บริษัทฯ มีฐานะเป็นผู้ให้บริการ หรือได้รับการร้องขอจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
4.3 เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตลอดจนเพื่อประมวลผลและอัปเดตข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะลูกค้าหรือคู่ค้าของบริษัทฯ และเพื่อการติดต่อสื่อสารกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับจากบริษัทฯ หรือจากคู่ค้าของบริษัทฯ ผ่านช่องทางการติดต่อของบริษัทฯ ได้แก่ เว็บไซต์ อีเมล โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์ SMS MMS หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เป็นต้น
4.4 เพื่อนำเสนอและ/หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ ตลอดจนสิทธิประโยชน์ รายการส่งเสริมการขายต่างๆ การดำเนินกิจกรรมทางการตลาด การเชิญชวนเข้าร่วมงานกิจกรรมและโครงการต่างๆ ของบริษัทฯ และสื่อสารเกี่ยวกับกิจกรรมและโครงการดังกล่าว รวมถึงอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงการดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ประสานงาน รับฟังความคิดเห็น หรือการตอบข้อซักถามที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ ผ่านช่องทางการติดต่อของบริษัทฯ ได้แก่ เว็บไซต์ อีเมล โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์ SMS MMS หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เป็นต้น
4.5 เพื่อให้การปฏิบัติตามสัญญา และ/หรือคำอนุญาตให้เข้าร่วม/มีส่วนร่วม การซื้อผลิตภัณฑ์ เข้ารับการบริการ เข้าร่วม/มีส่วนร่วมโครงการ การได้รับสิทธิประโยชน์ กิจกรรมใด ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ที่บริษัทฯ จัดทำขึ้นและ/หรือที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ให้เกิดขึ้นมีได้โดยตลอด เช่น ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม แคมเปญ ข้อเสนอ รายการส่งเสริมการขาย กิจกรรมชิงโชค คำถามชิงรางวัล การฝึกอบรม การสัมนา การลงทะเบียนรับ/แลกของรางวัล หรือของขวัญ หรือรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของบริษัทฯ ไม่ว่าจะดำเนินการโดยบริษัทฯ หรือบุคคลภายนอก
4.6 เพื่อสำรวจความพึงพอใจของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ของบริษัทฯ ตลอดจนยกระดับผลิตภัณฑ์ และการบริการของบริษัทฯ ให้ดียิ่งขึ้น
4.7 เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลตามความสนใจหรือพฤติกรรมของลูกค้า และการวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อสำรวจความพึงพอใจในการใช้บริการของบริษัทฯ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลจากผลิตภัณฑ์และบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้จากบริษัทฯ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ วิเคราะห์พฤติกรรม วิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มลูกค้าที่สนใจในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ วิเคราะห์ช่วงเวลา ที่ตั้งของลูกค้า แนวโน้มของตลาด ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการตลาด แคมเปญ ผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อประเมิน จัดการ ปรับปรุง ดำเนินการวิจัย วางแผน และพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการ และรายการส่งเสริมการขายต่างๆ ของบริษัทฯ ให้ตรงตามความต้องการของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ดียิ่งขึ้น
4.8 เพื่อดูแล ดำเนินงาน ติดตาม สังเกตการณ์ และจัดการเว็บไซต์และแพลตฟอร์มของบริษัทฯ และให้การใช้งานเว็บไซต์และแพลตฟอร์มเป็นไปอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ตลอดจนเพื่อปรับปรุงแผนงานและเนื้อหาของเว็บไซต์และแพลตฟอร์มให้ดียิ่งขึ้น
4.9 เพื่อการบริหารความเสี่ยง การกำกับการตรวจสอบ และการบริหารจัดการธุรกิจเพื่อการปฏิบัติตามข้อกำหนด นโยบาย และกระบวนการภายใน เช่น เพื่อตรวจสอบและป้องกันการทุจริต เพื่อดูแลจัดการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบการสื่อสาร การรักษาและตรวจสอบความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการตรวจสอบความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
4.10 เพื่อปฏิบัติตามกฏหมาย กฏเกณฑ์ คำสั่ง ข้อกำหนด และหน้าที่ตามกฏหมายของบริษัทฯ เพื่อรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการตามกฏหมายที่เกี่ยวข้อง
4.11 การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยอาศัยฐานทางกฎหมายอื่น ๆ โดยบริษัทฯ อาจอาศัยหรืออ้างถึงฐานทางกฎหมายอื่นๆ ได้แก่ ฐานการปฏิบัติตามสัญญา ฐานปฏิบัติตามกฎหมาย ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล หรือฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นต้น ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต แล้วแต่กรณี เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
4.12 โดยทั่วไปแล้วบริษัทฯ ไม่มีความประสงค์ที่จะเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ เช่น ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลสัญชาติที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเดินทาง เป็นต้น หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้มอบสำเนาเอกสารดังกล่าวให้แก่บริษัทฯ ขอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตให้บริษัทฯ ดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการ บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น
ในการประมวลผลข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะดำเนินการให้เป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งตามที่ระบุในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลใดต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนทำการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นกำหนดไว้
ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม โดยการเปิดเผยและการดำเนินการอื่นที่ไม่ใช่การเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นให้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าให้แก่บุคคลที่สามดังต่อไปนี้
5.1 บริษัทในเครือ ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึง กรรมการ เจ้าหน้าที่ หุ้นส่วน ผู้จัดการ สมาชิก พนักงาน ที่ปรึกษา ลูกจ้าง ตัวแทน และผู้แทนใด ๆ ของบริษัทดังกล่าว เท่าที่เกี่ยวข้องและตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
5.2 ผู้ให้บริการของบริษัทฯ หรือผู้จัดหาผลิตภัณฑ์บริการจากภายนอกเพื่อให้บริการต่างๆ แทนบริษัทฯ หรือเพื่อช่วยในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่งผู้ให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน บริษัทที่ให้บริการด้านการวิจัยและสำรวจตลาด บริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์ บริษัทที่ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา การออกแบบ การสร้างสรรค์ และการสื่อสาร ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์ ผู้รับจ้างพัฒนาและดูแลระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและระบบชำระเงิน ผู้ให้บริการด้านงานบริการลูกค้าผ่านระบบ Call Center เป็นต้น
5.3 ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ นักบัญชี นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ที่ปรึกษา และที่ปรึกษาทางการเงิน หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกบริษัทฯ
5.4 หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฏหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฏหมาย ตลอดจนบุคคล คณะบุคคล หรือนิติบุคคลซึ่งใช้อำนาจหรือได้รับมอบให้ใช้อำนาจในการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามกฎหมาย
5.5 กลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ หรือบุคคลภายนอกตามความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามข้อกำหนดของสัญญา หรือตามข้อกำหนดของกฏหมาย แล้วแต่กรณี
5.6 ผู้รับโอนสิทธิ หน้าที่ และผลประโยชน์ใด ๆ จากบริษัทฯ รวมถึงผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้รับโอนดังกล่าว ให้ดำเนินการแทน เช่น กรณีปรับโครงสร้างองค์กร ควบรวมหรือซื้อกิจการ เป็นต้น
6. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ที่อธิบายไว้นโยบายนี้เท่านั้น โดยทั่วไปบริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลาตราบเท่าที่วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ยังคงมีอยู่และจะยังคงจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้ต่อไปอีก 10 ปี นับถัดจากวันที่วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลดังกล่าวสิ้นสุดลง เว้นแต่กฎหมายที่บังคับใช้จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
เมื่อครบกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือระบบของบริษัทฯ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เว้นแต่กรณีจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวต่อไปตามที่กฎหมายกำหนด
7. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ เพื่อการประมวลผลหรือเก็บรักษาข้อมูลในระบบประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing) โดยในการดำเนินการดังกล่าว บริษัทฯ จะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และจะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ในกรณีที่มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับโอนข้อมูลอาจไม่เพียงพอ บริษัทฯ จะดำเนินการ
7.1 จัดให้มีสัญญาประมวลผลข้อมูล (Data Processing Agreement) หรือข้อสัญญามาตรฐาน (Standard Contractual Clauses) แล้วแต่กรณี
7.2 แจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและอาจขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่จำเป็น
7.3 จัดให้มีนโยบายสำหรับบริษัทในเครือเพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Binding Corporate Rules)
8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของตน มีดังนี้
8.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
(1) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัทฯ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมนั้นจะมีข้อจำกัดโดยฐานกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(2) การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนหน้านี้
8.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of Access)
(1) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(2) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอม
8.3 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
8.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) ข้อมูลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์
(2) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอมและบริษัทฯ ไม่มีเหตุตามกฎหมายที่จะประมวลผลต่อไป
(3)เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลคัดค้านการประมวลผลและบริษัทฯ ไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต่อไป
(4) มีการประมวลผลข้อมูลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
8.5 สิทธิในการระงับการประมวลผลข้อมูล (Right to Restriction of Processing)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูล ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) อยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ
(2) เป็นข้อมูลที่ต้องลบหรือทำลาย แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลขอให้ระงับการใช้แทน
8.6 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล (Right to Object)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ การตลาดแบบตรง การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
8.7 สิทธิในการส่งหรือโอนย้ายข้อมูล (Right to Data Portability)
(1) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
(2) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามวิธีการที่กำหนดในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(3) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
8.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเห็นว่าบริษัทฯ หรือลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
9. มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้กำหนดมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเข้มงวด เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ และบริษัทฯ จะจัดทบทวนมาตรการดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีมาตรการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยการจำกัดสิทธิของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (บุคลากรของบริษัทฯ หรือบุคคลผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากบริษัทฯ ให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล) ตลอดจนมาตรการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
10. การกำกับดูแลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
10.1 จัดระบบการกำกับดูแลที่เหมาะสม
10.2 จัดทำนโยบาย ระเบียบปฏิบัติ มาตรการปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
10.3 ตรวจสอบ ควบคุมดูแล ติดตาม การดำเนินงานภายใต้นโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
10.4 จัดการฝึกอบรมให้ผู้บริหาร พนักงาน ของบริษัทฯ ให้มีความรู้ความเข้าใจนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฏหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
10.5 จัดเตรียมแผนรับมือและแนวทางแก้ไขในกรณีเกิดเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทฯ อาจแจ้งแผนรับมือและแนวทางแก้ไขให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบหากเหตุละเมิดดังกล่าวมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
11. ช่องทางการติดต่อบริษัทฯ
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีข้อสงสัยหรือต้องการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
อีเมล : MaleeDPO@malee.co.th
สถานที่ติดต่อ : บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
เลขที่ 401/1 หมู่ 8 ถนนพหลโยธิน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี รหัสไปรษณีย์ 12130
เบอร์ติดต่อ : 02-080-7899